[เหตุการณ์สมมติ] ณ ที่ประชุมในบริษัท สกัดทุกไอเดียเจ๋ง จำกัด
A: “คุณ B มีไอเดียอะไรมั้ย”
B: “.......................”
A: “แล้วคุณ C ว่าไงบ้าง เห็นว่า เคยทำงานคล้ายๆแบบนี้มาก่อน”
C: “ผมว่าเราเอาแบบ…$%#@@$%..ดีมั้ยครับ”
A: “อันนั้นเคยทำแล้ว ไม่เวิร์กหรอก”
….
...
หลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับไหน มักเคยเจอกับสถานการณ์ดังกล่าว แล้วจบการประชุมโดยไม่ได้ไอเดียอะไรออกมาเลย หรือได้ แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์นัก เพราะไม่มีใครกล้าเสนอสิ่งใหม่ๆ ด้วยทั้งตัวบริบทการประชุม เจ้านาย นักขัด และอื่นๆ
วันนี้แอดจะมาแชร์ทริค “การระดมสมอง (Brainstorm)” แบบสร้างนวัตกรรม
นั่นคือแนวคิดที่ว่า “การจะมีไอเดียที่ดีได้ ต้องมีไอเดียที่เยอะก่อน - Linus Pauling”
โดยเราจะสร้างวัฒนธรรมแบบ Yes...and (ใช่..ทำเลย!) ซึ่งในโหมดนี้คนในทีมจะมีส่วนร่วมในการออกไอเดียทุกคน โดยไอเดียแต่ละอย่างนั้น ให้จำไว้ว่า อย่าเพิ่งสนใจข้อจำกัด ให้เน้นจินตนาการไว้ก่อน ช่วยส่งเสริมไอเดียที่แปลก แหวกแนว โดยการชื่นชมไอเดียของเขา ต่อยอดไอเดียไปเรื่อยๆ และที่สำคัญคือ ขอให้คนในทีมเลื่อนการวิจารณ์ไอเดียที่ออกมาในกระบวนการนี้ไปก่อน เพื่อทำให้ไอเดียไม่ติดขัด หรือหยุดชะงัก
พอระดมสมองกันด้วยการใช้ Yes..and เสร็จ ก็ถึงเวลาการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) หรือการใช้ Yes...but (ใช่...แต่) นั่นเอง เพื่อหาว่าในแต่ละไอเดียนั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า มีความคุ้มค่าในเชิงธุรกิจ รวมไปถึงค้นหาข้อจำกัดของแต่ละทางออก เช่น เรื่องของกฎหมาย ทรัพยากรของบริษัทเรา ทั้งเงินทุน กำลังคน เทคโนโลยีต่างๆ
เท่านี้ก็ทำให้ได้ไอเดียออกมาแล้ว
แต่!! มีข้อควรระวังสำหรับองค์กร คือ บ่อยครั้งที่ในการประชุม หรือการระดมสมองนั้น มักจะจบลงด้วย การเลือกไอเดีย หรือวิธีแก้ปัญหาที่เราคุ้นเคย เช่น สร้างแคมเปญการตลาดแบบลดราคา การใช้พรีเซนเตอร์ การเพิ่มสวัสดิการให้พนักงานแบบเดิมๆ เป็นต้น เพราะเราคิดว่ามันง่ายต่อการทำ ซึ่งนั่นเป็นอุปสรรคต่อการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้า
“เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะได้ผลลัพธ์แบบใหม่ๆ โดยที่ยังกระทำอยู่แบบเดิม”
เพราะฉะนั้นในการระดมสมองครั้งต่อไป ให้จำไว้ว่า ”จงออกนอกกรอบ ปลดปล่อย และลุยกับมัน”